คดีฆาตกรรม ย้อนไทม์ไลน์คดีฆาตกรรม ‘น้องหลิว’

คดีฆาตกรรมฆาตกรรม ฆ่าฝังดิน ฆ่าหั่นศพ ฆ่าอำพรางคดี สะเทือนขวัญ เปรี้ยวหั่นศพ คดีฆ่่าตกรรม โทษ

คดีฆาตกรรมย้อนไทม์ไลน์คดีฆาตกรรม ‘น้องหลิว’ ทิ้งป่าอ้อย ก่อนพิพากษา ‘ผอ.จุมพล’ คุกตลอดชีวิต “มติชน” รวบรวมไทม์ไลน์คดี ผอ.จุมพล ฆาตกรรมสาวโรงงาน อำพรางศพทิ้งไร่อ้อย ได้ดังนี้ น.ส.มยุรี (สงวนนามสกุล) หรือน้องหลิว หลังจบการศึกษาระดับชั้น สะเทือนขวัญม.6 ขณะนั้นอายุเพียง 18 ปี ได้ไปทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี เป็นระยะเวลาเพียง 1 เดือน ก่อนหายตัวไปจากบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพยานกล่าวตรงกัน ว่าพบเห็นน้องหลิวขับรถจักรยานยนต์มาที่ห้างดังกล่าว และจอดรถทิ้งไว้ที่นั่น ก่อนขาดการติดต่อไป ในเดือนพฤษภาคม 2555

ต่อมามีข่าวลือสะพัด ประกอบกับการสอบถามเพื่อนร่วมงานว่า น้องหลิว น่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศ ประกอบกับอุปนิสัยเป็นคนที่ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใคร แต่จะพึ่งพาตัวเองมากกว่า และเอาตัวรอดด้วยตัวเองมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วฆ่าอำพรางคดี ครอบครัวจึงคิดว่าน้องหลิวอาจไปหางานทำที่อื่น หรือตัดสินใจกลับไปคบหาคืนดีกับชายที่มาติดพันกัน ที่ก่อนหน้าจะหายตัวไป ได้มีปัญหาและพยายามจะเลิกรากัน

คดีฆาตกรรม

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังไม่หมดหวังที่ออกตามหา แต่อย่างไรก็หาไม่พบ จึงร้องขอความช่วยเหลือไปที่ “ศูนย์คนหาย” มูลนิธิกระจกเงา และพยายามติดตามข้อมูลจากศพไร้ญาติฆ่าหั่นศพจนกระทั่งพบข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 มีการพบศพหญิงนิรนาม บริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ไม่มีเอกสารติดตัว และมีร่องรอยถูกยิงตามตัวหลายจุด

ทางเจ้าหน้าที่จึงนำศพดังกล่าวไปเก็บไว้ที่สุสานพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา ต.หนองอีรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเวลานานถึง 8 ปี ทางครอบครัวจึงได้ขอตรวจดีเอ็นเอจากร่างที่พบฆ่าฝังดิน ปรากฏว่าตรงกับของพ่อแม่ที่ออกตามหาลูกสาว จึงมั่นใจว่าเป็นร่างของน้องหลิวแน่แล้ว หลังจากนั้น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนคดีนี้ แจ้งว่า คืบหน้าแล้ว 80% กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลให้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย โดยมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ตัว

จากนั้น ศาลจังหวัดสระแก้วได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.28/2564 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของตนเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย,ฆ่าตกรรม พกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุอันสมควร” เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าจับกุม ผอ.จุมพล ที่บ้านพักใน จ.สุพรรณบุรี พร้อมทั้งนำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในเบื้องต้น “นายจุมพลให้การปฏิเสธ”

คดีฆาตกรรม

ด้าน กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของนายจุมพล สุภาพงษ์ หรือ ผอ.ตุ๊ อายุ 56 ปี ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าน้องหลิวเปรี้ยวหั่นศพ ทั้งนี้ จากการสอบถามครอบครัวของน้องหลิว ทราบว่า ผอ.จุมพล ได้ชอบพอกับน้องหลิว สาวโรงงาน และได้ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ และอยู่ๆ น้องหลิวได้หายตัวไป จึงออกตามหาแต่ไม่พบ จึงขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ก่อนจะพบศพหญิงนิรนามในท้องที่อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว และจากการตรวจดีเอ็นเอ ผลปรากฏว่าเป็นของน้องหลิว ด้วยตรงกับดีเอ็นเอของพ่อแม่ที่ออกตามหา

กระทั่งวานนี้ 16 พฤศจิกายน 2565 ภายหลังศาลจังหวัดสระแก้ว วิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน สภ.วัฒนานคร รวบรวมนำส่งพนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีทั้งหลักฐานจากอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซองปืน ผลการตรวจดีเอ็นเอ และคำให้การของเพื่อนผู้เสียชีวิตคดีฆ่่าตกรรม โทษ มีความชัดเจนเชื่อได้ว่านายจุมพล สุภาพงษ์ หรือ ผอ.ตุ๊ อดีต ผอ.โรงเรียน กระทำผิดตามฟ้องจริง จึงมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำร้องเป็นเงิน 1,700,000 บาท ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะศาลอ่านคำพิพากษา ผอ.จุมพล จำเลยในคดีถึงกับทรุดนั่งลงเพื่อหยิบยาดมในกระเป๋าขึ้นมาดม โดยศาลแนะนำให้จำเลยอุทธรณ์ในชั้นฎีกา ก่อนจะถูกตำรวจที่ประจำในศาลเข้ามาควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไปคดีฆาตกรรม

 

 

ขอบคุณเครดิตจากhttp://www.matichon.co.th/

 

ข่าวแนะนำ